Money Well Spent: สมุดวาดภาพและดินสอ

เราห่างหายจากการวาดภาพมานานมาก แต่เดิมเป็นคนไม่ชอบศิลปะอยู่แล้ว ตอนเด็กๆ วิชาศิลปะกับพละเป็นวิชาที่พอถึงคาบทีไรก็อยากจะหายตัวไปให้พ้น เป็นสองวิชาที่มักจะเจอครูผู้สอนที่ไม่น่าประทับใจ และเป็นสองวิชาที่ไม่ได้พัฒนาทักษะของนักเรียน เรียนเพื่อให้รู้ว่าตัวเองไม่ได้เก่งไปทุกอย่าง เรียนเพื่อให้รู้ว่าเด็กเรียนมักจะเล่นกีฬาไม่เก่ง และเด็กที่เล่นกีฬาเก่งมักจะเรียนไม่ดี (ซึ่งไม่เป็นความจริง)

แม้เราจะเกลียดวิชาศิลปะแต่การวาดรูปเล่นในหนังสือเรียนก็ยังสนุกกว่านั่งฟังครูสอน ทำให้การวาดรูปเวลาเบื่อๆ ก็ยังติดเป็นนิสัยต่อมา แต่แล้ววันนึงเราก็พบว่าตัวเองไม่ได้วาดรูปอีกเลย แม้จะเป็นการวาดรูปเล่นเวลาเบื่อๆ ก็ตาม สมุดบันทึกที่เคยมีรูปสลับกับตัวหนังสือก็เหลือเพียงตัวหนังสือเต็มหน้ากระดาษไปหมด

เหตุผลนึงที่ทำให้เราเลิกวาดรูปไปเป็นเพราะเรารักความสะอาดมากขึ้น แต่ว่าเราไม่ชอบการทำความสะอาด เราเลยเลือกที่จะไม่สร้างความสกปรกตั้งแต่แรก ซึ่งนั่นรวมถึงการไม่สร้างขี้ยางลบจากการลบดินสอด้วย อีกเหตุผลที่ทำให้เราเลิกวาดรูปไปอาจเป็นเพราะว่ายิ่งเวลาผ่านไปโอกาสที่จะได้เบื่อจริงๆ จังๆ ก็น้อยลงเรื่อยๆ ถ้าเมื่อไหร่มีอุปกรณ์ที่สามารถเข้าอินเตอร์เน็ตได้ก็บอกลาความเบื่อไปได้เลย

เราตัดสินใจกลับมาวาดรูปเพราะเราเจอปัญหาว่าเวลาเขียนเรื่องแต่งแล้วเราไม่สามารถจินตนาการหน้าตาและการแต่งกายของตัวละครได้อย่างสมบูรณ์ พอลองวาดออกมาก็ไม่ได้ดั่งใจ เพราะไม่เคยเรียนทักษะการวาดรูปตั้งแต่แรก เราคิดว่าการฝึกวาดรูปจะทำให้เราวาดภาพตัวละครในหัวได้ดีขึ้น รวมถึงกลับมามองสิ่งรอบตัวได้อย่างชัดเจนขึ้น ไม่ได้มองเห็นแค่ต้นไม้ แต่กลับมามองเห็นสีเขียวหลายเฉดสีของใบไม้แต่ละใบ มองเห็นรอยกัดของหนอน มองเห็นหนามที่โคนใบไม้ มองเห็นมดที่กำลังไต่อยู่บนต้นไม้ มองเห็นความโกรธเกรี้ยวหรือซู่ซ่าของมดแต่ละตัว

เราเริ่มวาดภาพแรกลงในสมุดเล่มใหม่ด้วยความไม่ประทับใจเท่าไหร่ สมุดสเก็ตช์และดินสอราคาแพงไม่ได้ทำให้วาดรูปออกมาได้ดีขึ้น แต่กลับทำให้แย่กว่าที่เคยจำได้ ความคาดหวังในอุปกรณ์ที่ซื้อมาใหม่ไม่ต่างอะไรจากความคาดหวังของครูศิลปะที่ตีมือนักเรียนเพื่อหวังจะให้นักเรียนวาดรูปออกมาสวย รูปที่ออกมากลายเป็นเพียงงานที่ไม่มีใครต้องการ แม้แต่ตัวคนวาดเองก็ตาม

บทเรียนแรกในคอร์สวาดรูปที่เราเลือกเรียนคือการวาดรูปอุปกรณ์ที่ตัวเองใช้ในการวาดภาพ ซึ่งเรามีแค่ดินสอที่เพิ่งซื้อมาใหม่ เราเลยใช้ดินสอเป็นแบบ แล้วเอาปากกาแถมฟรีที่ใช้เขียนบันทึกมาวาดรูปแทน ผลปรากฏว่าเราชอบลายเส้นและสีสันของปากกาลูกลื่นด้ามนี้มากกว่าของดินสอด้ามนี้อีก วาดไปก็คิดไปว่านี่เราจำกัดตัวเองอยู่แค่การวาดรูปด้วยดินสอมาตั้งนาน ทั้งๆ ที่ปากกาที่ใช้อยู่ทุกวันก็ใช้วาดรูปได้เหมือนกัน แล้วก็ไม่ทิ้งขี้ยางลบด้วย

พอมาคิดๆ ดู ที่เราชอบการวาดรูปด้วยปากกาอาจเป็นเพราะว่ามันเป็นอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่ทุกวันก็ได้ และการวาดรูปเล่นแก้เบื่อส่วนใหญ่เราก็ทำด้วยปากกา ไม่ใช่ดินสอ บางทีวิชาศิลปะที่ถูกบังคับให้เรียนเป็นเวลาหลายปีอาจทำให้ทุกๆ ครั้งที่จับดินสอวาดรูปก็มีคำว่า “พอใช้” ที่ครูเคยให้บ่อยๆ ติดมือมาด้วยโดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้รู้สึกสนุกกับการจับปากกาวาดรูปสิ่งต่างๆ รอบตัวมากเลยแหละ ตื่นเต้นกับความคิดที่ว่าจะได้เก็บความทรงของจำกาแฟแก้วโปรด หมาที่น่ารักเป็นพิเศษ หนอนที่บินได้ หรือคนที่อยู่ด้วยแล้วมีความสุข ออกมาเป็นภาพวาดได้

ไม่รู้ว่าพอวาดภาพจากจินตนาการแล้วจะสนุกแบบนี้ไหม หวังว่าจะสนุกแบบนี้ แต่ถ้าไม่สนุกก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง

Share:

Leave a Reply