ลาก่อน LAMY Safari

ปากกา LAMY Safari ด้ามนี้อยู่กับเรามาได้ปีครึ่งแล้ว แต่เป็นการอยู่ด้วยกันแบบที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเท่าไหร่ ตั้งใจว่าจะทำให้การนั่งลงเขียนหนังสือเป็นอะไรที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีความเป็นพิธีกรรมบางอย่าง แต่กลายเป็นว่าการที่ต้องมาคอยเปลี่ยนหมึกปากกา และการที่เขียนเร็วเกินไปไม่ได้เพราะมือจะไปปาดหมึกแล้วทำให้เลอะ ทำให้สุดท้ายเราเขียนหนังสือน้อยลงกว่าที่เคย

เร็วๆ นี้เราสร้างวินัยให้ตัวเองและหยิบ LAMY มาเขียนต่อได้สำเร็จ แต่ก็เป็นการเขียนที่ทุลักทุเลพอสมควร ต้องคอยสั่งหมึกใหม่ทุกๆ สองอาทิตย์ ชงกาแฟเสร็จแล้วก็เขียนเลยไม่ได้ ต้องรอให้มือที่เพิ่งล้างมาแห้งก่อน ไม่งั้นถ้าน้ำจากมือไปโดนหมึกที่เขียนเอาไว้ก็จะกลายเป็นรอยหมึกเลอะเทอะไปหมด แต่เราก็ทำใจยอมรับสภาพนี้ คิดว่าจะลองเปลี่ยนกระดาษหรือเปลี่ยนเป็นหมึกกันน้ำหรือหมึกที่แห้งเร็วกว่านี้ดู

จนกระทั่งเรากลับไปอ่านงานเก่าที่เราเขียนไว้

เราจำไม่ได้ว่าทำไมเราถึงไปเปิดงานเก่าที่เราเขียนไว้ หยุดเขียนไป และตั้งใจจะเริ่มใหม่พร้อมกับปากกาที่ซื้อมาด้ามนี้ แต่สิ่งที่เราพบคือเราชอบงานเขียนในตอนนั้นมากกว่าตอนนี้มาก และต้องยอมรับกับตัวเองว่าตัวเราในตอนนี้ไม่สามารถที่จะเขียนงานแบบตอนนั้นได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเราเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่โกรธโลกใบนี้มากกว่าเดิม อีกส่วนหนึ่งเราคิดว่าอาจเป็นเพราะการใช้ปากกา LAMY นี่แหละ

เราเคยสังเกตว่างานเขียนของตัวเองที่เราชอบมักจะเกิดจากการที่ความคิดในหัวเราลงสู่กระดาษเลย ไม่ได้กลั่นกรองอะไรมากมาย เหมือนกับหน้ากระดาษและตัวหนังสือเป็นเครื่องมือถ่ายทอดความคิดเท่านั้น การเขียนแบบนี้เหมาะกับการเขียนด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งทำได้เร็วกว่าการใช้มือเขียน

การเปลี่ยนมาใช้ปากกาหมึกซึมทำให้เราเขียนได้ช้าลง ด้วยข้อจำกัดเรื่องหมึกอย่างที่บอกไป และต่อให้เปลี่ยนไปใช้ปากกาลูกลื่นก็ยังเร็วสู้การพิมพ์กับคีย์บอร์ดไม่ได้อยู่ดี นอกจากนี้การเขียนเร็วๆ ก็ทำให้ลายมือไม่สวย ทำให้ไม่อยากกลับมาอ่านซ้ำ พอเป็นแบบนั้นก็เลยไม่อยากเขียนเร็วตั้งแต่แรก

เป็นไปได้ว่าการเปลี่ยนรูปแบบการเขียนทำให้รูปแบบการคิดของเราเปลี่ยนไปด้วย เราปรับความคิดให้ช้าลงตามการเขียนของเราโดยไม่รู้ตัว

ตอนนี้ก็เลยกลับมาเขียนด้วยคอมพิวเตอร์แล้วล่ะ แล้วก็บอกลาปากกาหมึกซึมแล้ว แม้จะเคยคิดว่าการได้ใช้หมึกชื่อเก๋ๆ นี่น่าจะทำให้รู้สึกดีมากๆ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าไม่เหมาะกับชีวิตตัวเองเท่าไหร่

ว่าแต่จะมีอะไรในชีวิตอีกบ้างนะ ที่สิ่งที่จินตนาการเอาไว้กับความเป็นจริงมันไม่เหมือนกัน แต่เรายังเลือกอยู่กับความเข้ากันไม่ได้นั้นโดยไม่รู้ตัว

อะไรหลายๆ อย่างก็คงมีเวลาหมดอายุของมัน ไม่ใช่แค่กับอาหาร บางทีเราอาจไม่ได้เกลียดใครที่เราเคยเกลียดอีกต่อไปแล้ว บางทีเราอาจไม่ได้ตื่นเต้นกับที่ที่เราเคยอยากไปอีกต่อไปแล้ว บางทีเราอาจไม่ได้รู้สึกกังวลอีกแล้วว่าใครจะมองเรายังไงถ้าเราอยากแสดงความรักต่อคนที่เรารักเวลาอยู่ข้างนอก

Share:

Leave a Reply